หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

5 อันดับ สุนัขจิ้งจอกที่สวยและหายาก


เพจนี้ ผม Around The World จะพา พี่ๆน้องๆไปรับชมกับ 5 อันดับ สุนัขจิ้งจอกที่สวยและหายากในโลก ถ้าพร้อมแล้วไป Let go กันเลยจ้าาา


เนื้อหานี้เป็นเนื่อหาที่นำเอามาจาก Internut , หนังสือ และอื่นๆ โปรดใช้พิจารณญานในการรับชมด้วยครับ

อันดับที่ 1 





สุนัขจิ้งจอกแดง (Red fox)
มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับหมาทั่วไปแต่มีขนาดเล็กกว่า ขนตามลำตัว มีสีเทาแดงหรือสีน้ำตาลแดง บางตัวอาจมีสีน้ำตาลส้ม สีขนบริเวณปลายหูและขามีสีดำ สีขนอาจมีเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพอากาศ กล่าวคือ สีขนจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแดงในช่วงที่มีอากาศมีความชื้นสูง พบทั้งในทวีปอเมริกาเหนือ, ทวีปยุโรป, ตะวันออกกลาง, ปากีสถาน ภาคเหนือของอินเดีย, เนปาล, ภูฏาน, ภาคเหนือของพม่า, จีน, ภาคเหนือของลาวและเวียดนาม
หมาจิ้งจอกแดง สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ทำให้อาศัยอยู่ในภูมิประเทศที่หลากหลายได้ นอกจากนี้จากการศึกษานานกว่า 40 ปี ของนักวิจัยพบว่า หมาจิ้งจอกแดงสามารถส่งเสียงร้องได้หลากหลายมากถึง 40 เสียง สำหรับการสื่อสารกันเอง, การหาคู่ หรือการสื่อสารกันเฉพาะในฝูงหรือครอบครัว
หมาจิ้งจอกแดง สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ทำให้อาศัยอยู่ในภูมิประเทศที่หลากหลายได้ ป่าสนหรือป่าเบญจพรรณ, พื้นที่แห้งแล้งแบบทะเลทราย และพื้นที่เกษตรกรรม กินอาหารได้หลากหลายประเภทตั้งแต่สิ่งมีชีวิต เช่น หนู กระต่ายนกแมลง หรือแม้แต่หนอนชนิดต่าง ๆ ในบางครั้งอาจกินผักและผลไม้ด้วย เช่น กะหล่ำปลี โดยจะกินอาหารมากถึงวันละ 1 กิโลกรัม

อันดับที่ 2

Cross fox
       เป็นสายพันธุ์ของสุนัขจิ้งจอกที่มีลักษณะภายนอกคล้ายกับสุนัขจิ้งจอกแดง(คล้ายกันมากถึง 30%) สามารถพบได้ในอเมริกาเหนือ ในอดีตถือเป็นสุนัขจิ้งจอกที่พบได้มากในรัฐไอดาโฮ และรัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา แต่พวกมันถูกล่าเพื่อเอาขนมาทำเป็นเครื่องนุ่งห่ม จนทำให้จำนวนของมันลดลงเรื่อย ๆ
สุนัขจิ้งจอกพันธุ์นี้ถูกบรรยายโดย Conrad Gessner และ Olaus Magnusจากการศึกษาผิวหนังสุนัขจิ้งจอกแดง(Red Fox)ในประเทศฟินแลนด์เกือบ 3,000 แผ่น พบว่าผิวหนังของสุนัขจิ้งจอกสีแดงแทบไม่เหมือนผิวของ Cross fox เลย

อันดับที่ 3




สุนัขจิ้งจอกมาเบิล (Marble fox)

           สุนัขจิ้งจอกที่มีชื่อเต็ม ๆ ว่า อาร์กติก มาเบิล ฟ็อกซ์ (Arctic Marble Fox) เป็นสุนัขจิ้งจอกอีกหนึ่งสปีชีส์ที่แยกออกมาจากสุนัขจิ้งจอกแดงซึ่งสีขนที่เห็นอยู่นี้เกิดจากการผสมพันธุ์ใหม่ของมนุษย์ ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติอย่างที่เข้าใจกัน


อันดับที่ 4






สุนัขจิ้งจอกดำ  (Black fox)

              ซึ่งโดยปกติแล้วสุนัขจิ้งจอกทั่วไปเมื่อโตเต็มวัยแล้วจะผลัดขนเป็นสีน้ำตาลหรือเฉดสีส้ม จะมีสุนัขจิ้งจอกจำนวนน้อยมากๆ ที่ยังคงมีขนสีดำ และด้วยข้อบกพร่องทางด้านพันธุกรรมจึงทำให้พวกมันเป็นสุนัขจิ้งจอกที่หายากมากๆ และมีอัตราการโดนล่าสูงกว่าสุนัขจิ้งจอกทั่วไป เนื่องจากพบเห็นได้น้อยและนำขนของพวกมันมาใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ
             ในอดีตของประเทศอังกฤษในช่วงยุคกลางนั้น สุนัขจิ้งจอกสีดำถือว่าเป็นลางร้ายเช่นเดียวกับแมวสีดำที่เป็นความเชื่อในยุคปัจจุบันนั่นเอง 








(น่าจะจับจิ้งจอกดำมาสู้กับสุนัขจิ้งจอกแดงนะ5555555)

อันดับที่ 5



สุนัขจิ้งจอกเฟนเนก (Fanax fox)

       คำว่า "เฟนเนก" นั้น มาจากภาษาอาหรับคำว่า "ثعلب" (fanak) หมายถึง "หมาจิ้งจอก" ส่วนชื่อชนิดทางวิทยาศาตร์คำว่า zerda มาจากภาษากรีกคำว่า xeros ซึ่งหมายถึง "ความแห้ง" อันหมายถึงสภาพของสถานที่อยู่อาศัยนั่นเอง
   หมาจิ้งจอกเฟนเนกเป็นหมาจิ้งจอกขนาดเล็ก มีถิ่นกระจายพันธุ์อยู่ทางตอนเหนือของทวีปแอฟริกา โดยอาศัยอยู่ในทะเลทราย  ถือได้ว่าเป็นสัตว์ในวงศ์สุนัขที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก เนื่องจากขนาดเมื่อโตเต็มที่แล้ว มีน้ำหนักเฉลี่ยเพียง 1.75 กิโลกรัมสำหรับตัวผู้ และ 1.25 กิโลกรัมสำหรับตัวเมีย ซึ่งถือได้ว่าเล็กกว่าสุนัขบ้านเสียอีก นับได้ว่ามีขนาดน้ำหนักตัวใกล้เคียงกับชิวาวา ซึ่งเป็นสุนัขขนาดเล็ก และมีความยาวลำตัวประมาณ 24-40 เซนติเมตร มีความยาวหาง8 นิ้ว

มีขนสีน้ำตาลเหลืองตลอดทั้งตัว ดวงตาสีดำ มีจุดเด่นที่เห็นได้ชัดเจนคือ มีใบหูที่ใหญ่และยาวมากเนื่องจากใช้ปรับอุณหภูมิในร่างกาย บางตัวอาจยาวได้ถึง 15 เซนติเมตร คล้ายกับหมาจิ้งจอกหูค้างคาว (Otocyon megalotis) ซึ่งถือได้ว่าเป็นหมาจิ้งจอกขนาดเล็กเช่นกัน แต่มีขนาดใหญ่กว่าและ"ยังสามารถได้ยินเสียงในระยะไกล" (เป็นความคิดเห็นของผู้จัดทำนะ)




คลิป วิดีโอนี้เป็นสาระเพิ่มเติม ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้่อหาด้านบนแต่อย่างใด

สารคดี สุนัขจิ้งจอกแห่งเมืองฮอลลีวูด



(ขอขอบคุณมากๆนะครับที่รับเนื้อหาของเรา ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ขอบคุณครับ :) )







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น